รายงาน FBR: เรื่องราวของเรนเจอร์คนหนึ่งในเรือนจำ
รัฐอาราข่าน ประเทศพม่า
วันที่ 17 เมษายน 2010

เพื่อนๆ ที่รัก นี่คือเรื่องราวของเพื่อนสนิท และเพื่อนร่วมทีมของ FreeBurma Rangers ชื่อของเขาคือโซเนียงและเขาเป็นหัวหน้าและผู้ประสานงานของทีมอาราข่านสามทีมที่ให้การบรรเทาทุกข์แก่ผู้พลัดถิ่นในรัฐอาราข่านตะวันตกของพม่า เขาได้เข้าร่วมการฝึกอบรม FBR ครั้งแรกในปี 2002และด้วยความช่วยเหลือเพียงน้อยนิดเขาให้การฝึกอบรมทีมบรรเทาทุกข์สามทีมของเขาเองและได้ดูแลจัดการภารกิจบรรเทาทุกข์มากมายเพื่อที่จะช่วยชาวอาราข่านที่ถูกกองทหารพม่าเข้าโจมตี

โซเนียง หัวหน้าทีมรัฐอาราข่าน FBR

ในปี 2007 โซเนียงถูกจับกุมที่ชายแดนบังคลาเทศ/อินเดียและจำคุกอยู่ในบังคลาเทศเป็นเวลา 11 เดือนในข้อหาช่วยเหลือนักข่าวทำข่าวสถานการณ์ของผู้พลัดถิ่นของรัฐอาราข่านเขาได้พานักข่าวไปยังภารกิจในประเทศพม่าเสร็จเรียบร้อยแล้วและกำลังเอาเครื่องมือกล้องของนักข่าวกลับข้ามชายแดนผ่านบังคลาเทศเขาถูกจับกุมที่ชายแดนและโดนข้อหาข้ามชายแดนอย่างผิดกฎหมายเราอธิษฐานให้เขา ช่วยแก้ต่างให้เขาและนักข่าวผู้นั้นได้ช่วยจ่ายค่าปรับเพื่อที่จะเอาเขาออกมาเมื่อเขาถูกปล่อยตัวในอีก 11 เดือนจากนั้นเขากลับไปยังรัฐอาราข่านทันทีเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ถูกกองทหารพม่าโจมตีเขาจึงได้ช่วยพวกเราประสานการฝึกอบรมให้กับทีมทั้งหมดของ FBR ทั้ง คะฉิ่นและชิน เราพบกันอีกครั้งหนึ่งที่การฝึกอบรมและผมพูดว่า“ผมเสียใจด้วยที่คุณต้องใช้เวลาอยู่ในเรือนจำเราอธิษฐานเผื่อคุณและพยายามอย่างดีที่สุดแต่เราไม่สามารถช่วยคุณออกมาได้เร็วนัก”

โซเนียงตอบว่า “มันเป็นประสบการณ์ที่ดีสำหรับผมมันเป็นโอกาสที่ดีสำหรับผม ตอนที่พวกเขาส่งตัวผมเข้าคุกทันทีผมอธิษฐานและเริ่มที่จะรู้จักเพื่อนนักโทษคนอื่นๆผมให้กำลังใจพวกเขาและบอกพวกเขาว่ายังมีสิ่งมีประโยชน์หลายอย่างที่สามารถทำได้ในคุกผมบอกพวกเขาว่าเราไม่ควรจะยอมแพ้และพยายามทำในส่วนของเราให้ดีที่สุดผมให้กำลังใจกับนักโทษชาวอาราข่านและช่วยส่งเสริมคุณธรรมของพวกเขาและจัดพวกเขาให้เป็นระบบระเบียบเราพัฒนาเครือข่ายข้อมูลที่ดีขึ้นมาในคุกแห่งนั้นและจัดระบบของนักโทษให้เข้าสู่ทีมทำงานด้านการเมืองเมื่อพวกเขาถูกปล่อยตัวออกจากคุกแล้วเราให้กำลังใจพวกเขาหลายคนให้เข้าร่วมฝ่ายต่อต้านเพื่อประชาธิปไตยชาวอาราข่านและพวกเขาก็เริ่มที่จะมีความสุขมากขึ้น และมีจุดประสงค์ใหม่ในชีวิตของเขาการเห็นการเปลี่ยนแปลงทัศนคติและการลดลงของปัญหาในหมู่นักโทษเช่นนี้บรรดาผู้คุมรู้สึกซาบซึ้งใจและไม่ช้าพวกเขาก็ให้ผมมีห้องของผมเองมีทีวีและโทรศัพท์มือถือด้วย! เห็นไหมครับ พระเจ้าทรงดูแลผมและผมสามารถใช้เวลานั้นที่จะดึงคนขึ้นมาเพิ่มมากขึ้นอีกคนที่ต้องการทำงานเพื่ออิสรภาพในพม่า ขอบคุณสำหรับคำอธิษฐานของคุณและพระเจ้าทรงเปลี่ยนเวลาในคุกของผมให้กลายเป็นสิ่งที่ดี

ผมอยากจะแบ่งปันเรื่องราวนี้เพราะมันเป็นแรงบัลดาลใจให้กับผมและช่วยผมที่จะมีชีวิตที่มีความเชื่อมากขึ้นและที่จะจดจำไว้ว่า พระเจ้าทรงสามารถดึงสิ่งที่ดีออกมาจากทุกสถานการณ์และผมอยากจะให้พวกท่านทุกๆ คนได้ทราบว่าพวกท่านเป็นผู้ที่ช่วยเหลือสนับสนุนและแสงสว่างแห่งความรัก ความเชื่อ และความกล้าหาญนั้นเจิดจ้าในประเทศพม่า

ขอบพระคุณและขอพระเจ้าทรงอวยพรท่าน

เดฟ ครอบครัวและทีม
FBR